1.) โป่งข่ามคืออะไร?
ตอบ :
ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 720 ได้ให้คำจำกัดความ คำว่า "โป่งข่าม" หมายถึง ชื่อเรียกแร่เขี้ยวหนุมาน ใช้ทำเครื่องประดับ.
*** สรุป ***
- ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปัจจุบัน ระบุเจาะจงแค่เพียงชนิดของแร่ แต่ไม่ได้ระบุเจาะจง / ไม่ได้กำหนดสถานที่ที่ค้นพบแร่เขี้ยวหนุมานแต่ประการใด ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า แร่เขี้ยวหนุมานที่ถูกขุดพบไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดๆก็ตาม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คนไทยจะเรียกแร่เขี้ยวหนุมานนั้นว่า "โป่งข่าม"
- โป่งข่าม คือ แร่เขี้ยวหนุมาน / แร่เขี้ยวหนุมาน คือ ควอตซ์ ( Quartz ) / ควอตซ์ ( Quartz ) คือ แร่หรือหินใสทั้งที่ไม่มีตะกอน และ ที่มีตะกอนแร่ชนิดอื่น (มลทิน) ปนอยู่ภายใน / นอกจากนี้ยังมีควอตซ์บางประเภท เช่น แอเมทิสต์ (Amethyst Quartz) , ซิทรีน (Citrine Quartz) ฯลฯ เป็นหินสีเหมือนกันกับ ทับทิม ไพลิน บุษราคัม และพลอยชนิดอื่นๆ.
- จุยเจีย ตามความเชื่อของคนจีน ก็คือผลึกหินใส (Rock Crystal ) หรือ ที่คนไทยเรียกกันว่า "แก้วโป่งข่ามน้ำหาย (แก้วน้ำค้าง)"
- ชุดเครื่องทรงของเจ้าหญิง Grand Duchess Anatasia Nikolaevna แห่งรัสเซีย ทำจาก Rose Quartz หรือแก้วโป่งข่ามสีชมพู
- กะโหลกแก้วปริศนา (Crystal skull) อารยธรรมอินเดียนแดงโบราณเผ่ามายาในอเมริกาใต้ (อ้างแบบนั้น) ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติประเทศอังกฤษ ทำจากผลึกแก้วโป่งข่าม
- ลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาอยู่ที่วัดพะโคะ (วัดราชประดิษฐาน) เขาพัทธสิงค์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ก็อาจจะเป็นแก้วโป่งข่ามหรือแก้วบริสุทธิ์หรืออัญมณีใสบางชนิด.
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.boran5.com/index.php/พลอยตระกูลควอตซ์/วิชาการพลอยตระกูลควอตซ์.html
หมายเหตุ : ในแวดวงการค้าพลอยระดับโลก (โดยเฉพาะพลอยเนื้ออ่อนประเภทโป่งข่าม) สถานที่ที่ค้นพบพลอยไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด นักสะสมอัญมณีนานาชาติ จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลักษณะทางกายภาพของโป่งข่ามเม็ดนั้นๆ - ก้อนนั้นๆเป็นหลักสำคัญ ส่วนปัจจัยหลักซึ่งเป็นตัวกำหนดกลไกทางด้านราคา จะขึ้นอยู่กับตัวแปรสำคัญดังต่อไปนี้
- ความหายากของตะกอนแร่ ซึ่งอยู่ภายในโป่งข่าม (ชนิด - ประเภท / ความสวยงาม - ความเป็นระเบียบเรียบร้อย - ตะกอนแร่ไม่สะเปะสะปะ)
- ความสะอาดของโป่งข่าม (ใส - ไม่ใสปนขุ่น ไม่ขุ่น ไม่มีฝ้าน้ำแข็งเจือปน - ไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน)
ฯลฯ
ส่วนความเชื่อเรื่องแก้วโป่งข่ามมีคุณศักดิ์สิทธิ์หรือมีพลัง ไม่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อ คนโบราณในหลายๆประเทศทั่วโลก ต่างก็มีความเชื่อที่คล้ายๆกัน และประสบพบเจอเรื่องราวปาฏิหารย์ของโป่งข่ามที่ตรงกันอย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายมาเป็นความเชื่อสากลของกลุ่มชนในโลกนี้มานานนับพันปีมาแล้ว.
|
โกเมนหรือแก้วมหานิลปทัมราค |
2.) แก้วอัญมณีมงคล 24 ชนิด เป็นแก้วโป่งข่าม (Quartz) ทั้งหมดหรือไม่?
ตอบ : ในบรรดาแก้วมงคล 24 ชนิด "ไม่ใช่" แก้วโป่งข่ามทั้งหมด จะมีเพียงแก้วบางชนิดเท่านั้นที่เป็นโป่งข่าม ส่วนแก้วที่เหลือจะเป็นแก้วซึ่งอยู่ในกลุ่มของแก้วนพเก้า ที่คนโบราณในยุคแรกสมัยที่กรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานีได้จัดเอาไว้ (ส่วนแก้วนพเก้า ซึ่งได้แก่ เพชร , ทับทิม , มรกต , บุษราคัม , โกเมน , ไพลิน , มุกดาหาร , เพทาย , ไพฑูรย์ ทั้ง 9 ชนิดนี้เป็นสิ่งที่ถูกจัดแบ่งกลุ่มขึ้นมาใหม่ในภายหลัง หรือ ในช่วงยุคต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ สาเหตุที่มีการปรับเปลี่ยนจัดกลุ่มใหม่ให้เหลือ 9 ชนิด ก็เพื่อปรับให้เป็นไปตามกระแสค่านิยมในระดับสากลโลก)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.boran5.com/index.php/แก้วนพรัตน์/นพรัตน์-นวกาทีนิ-แก้วเก้าประการ.html
สำหรับ แก้วอัญมณีมงคล 24 ชนิด เฉพาะแก้วชนิดที่ไม่ใช่โป่งข่าม มีดังต่อไปนี้
2.1 แก้ววิฑูรย์ คือ ไพฑูรย์ ( Chrysoberyl ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้าหรือพลอยสีน้ำผึ้ง สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 1
2.2 แก้วมรกต หรือ มรกตใสยอดเต้า คือ มรกต ( Emerald ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้าหรือพลอยสีเขียว สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 2
2.3 แก้วสุริยประภา คือ มุกดาหารชนิดสีส้มอมแดง ( Red-Orange Moonstone ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้าที่มีระดับความแข็งน้อยที่สุด และมีระดับความแข็งที่ต่ำกว่าโป่งข่าม สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 2
2.4 แก้ววชิระเป๊กพรหมสามหน้า คือ พลอยตลก (Bi-Color) ซึ่งมีสี 3 สี (น้ำสี) อยู่ภายในแก้วเม็ดเดียวกัน สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 3
|
โกเมนหรือแก้วมหานิลปทัมราค |
2.5 แก้วปทัมราค คือ ทับทิมแดง (Ruby) ตามความหมายในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 หน้า 661 / แต่ในความหมายโบราณของอัญมณีมงคล 24 ชนิด หมายถึง โกเมน (Garnet) หรือ เพทาย (Red Zircon) สีแดงเข้มออกดำ ซึ่งเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของแก้วนพเก้า สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 3
2.6 แก้วจันทะแพง คือ มุกดาหาร (Moonstone) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้าที่มีระดับความแข็งน้อยที่สุด และมีระดับความแข็งที่ต่ำกว่าโป่งข่าม จึงอนุโลมให้ใช้โป่งข่ามที่มีลักษณะคล้ายกันทดแทนได้ สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 4
2.7 แก้วมหานิลทรายคำ คือ Obsidian ซึ่งมีระดับความแข็งที่ต่ำกว่ามุกดาหาร (Moonstone) สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 4
2.8 แก้วพระญาอินสวร (แก้วปรไมไอสาร) คือ มรกต ( Emerald ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้า สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 4
2.9 แก้ววิฑูรย์ขนบุ้งเทศ คือ ไพฑูรย์ ( Chrysoberyl ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้า สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 5
2.10 แก้วก๊อแดง คือ ทับทิม ( Ruby ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้า สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 5
2.11 แก้วสีพลีใส คือ เพชร ( Diamond ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้าที่มีระดับความแข็งสูงที่สุดคือระดับ 10 สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 5
|
โกเมนหรือแก้วมหานิลปทัมราค |
2.12 แก้ววิฑูรย์เทศ ชนิดวิฑูรย์เทศไข่ฟ้า คือ ไพฑูรย์ชนิดตาแมว (Chrysobery Cat's Eye) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้า ที่มีลำแสงยาวคล้ายสร้อยสังวาลพาดอยู่ตรงกลางแก้ว สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 6
2.13 แก้วเนระกันตี คือ พลอยเนื้อแข็งสีดำที่มีสาแหรกรูปเครื่องหมายดอกจันอยู่ตรงกลาง ( Black Star Sapphire ) สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 6
2.14 แก้วมหามธุกันตี คือ บุษราคัม ( Yellow Sapphire ) เป็นอัญมณีหนึ่งในแก้วนพเก้า ที่มีสาแหรกรูปเครื่องหมายดอกจันอยู่ตรงกลาง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 7
2.15 แก้วอินทนิลแก้วเผือก คือ Obsidian ซึ่งมีระดับความแข็งที่ต่ำกว่ามุกดาหาร (Moonstone) สามารถคลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้อง "แก้ววิเศษหรืออัญมณีมงคล 24 ชนิด" หน้า 7
3.) แก้วมหานิลมีกี่ชนิด อะไรบ้าง และเป็นแก้วโป่งข่ามทั้งหมดหรือไม่?
|
แก้วมหานิลอินทนิลหรืออินทนิลแก้วเผือก |
ตอบ : แก้วมหานิลมีด้วยกันทั้งหมด 12 ชนิด แต่ "ไม่ใช่" โป่งข่ามทั้งหมด จะมีเพียงแค่บางชนิดเท่านั้นที่เป็นโป่งข่าม (ควอตซ์) และบางชนิดก็ไม่ใช่โป่งข่าม แต่เป็นอัญมณีประเภทพลอยที่อยู่ในกลุ่มของแก้วนพเก้าจำนวนหนึ่ง , เป็นหินหรือแร่บางชนิดอีกจำนวนหนึ่ง ปะปนรวมกันอยู่ในแก้วมหานิลทั้ง 12 ชนิดนั้น ดังนี้
3.1 แก้วมหานิลน้ำตั๊บ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะคล้ายลูกหมากซัก คือลูกประคำดีควาย ชื่อมหานิลน้ำตั๊บ มีค่าได้หนึ่งพันทองคำ" ซึ่งแก้วมหานิลชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของ "นิลตะโก" (Black Spinel) ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ MgAl2O4 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 7.5 - 8 ในระบบของโมส์.
3.2 แก้วมหานิลทรายคำ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะคล้ายประกายทรายอยู่ในแก้วชื่อมหานิลทรายคำ" ซึ่งแก้วมหานิลชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของ "Obsidian" ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2,plus MgO,Fe3O4 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 5 - 5.5 ในระบบของโมส์. 3.3 แก้วมหานิลโปก๋า : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะแดงพันเกี่ยวเกี้ยวขึ้นชื่อโปก๋า" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "เพทายชนิดสีแดงสลัวออกดำ" (Zircon) ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ ZrSiO4 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 7.5 ในระบบของโมส์.
3.4 แก้วมหานิลไข่กา : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะคล้ายกับกากงา และเหมือนไข่กา ชื่อมหานิลไข่กา ควรค่าได้แสนทองคำ" แก้วมหานิลชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของ "Jasper" ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 6.5 - 7 ในระบบของโมส์.
3.5 แก้วมหานิลเผือก : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะคล้ายไข่ด้าน มีรัศมีเหลืองส่องเข้าไปในแก้วนั้น ชื่อมหานิลเผือก ควรค่าได้หนึ่งพันเงิน" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "อุลกะมณี" (Tektite) ซึ่งเกิดจากดินทรายบนพื้นผิวโลกที่หลอมละลาย อันเนื่องมาจากความร้อนสูงของอุกกาบาต(จากอวกาศ)ที่พุ่งเข้าชน แล้วเย็นตัวหรือแข็งตัวทันทีในระหว่างที่กระเด็นอยู่กลางอากาศ ไม่ใช่สะเก็ตดาวตกจากอวกาศจริงๆตามที่หลายท่านเข้าใจกัน มีระดับความแข็งอยู่ที่ 5.5 - 6 ในระบบของโมส์.
|
โป่งข่ามแก้วฟ้าแรพิรุณแสนห่า |
3.6 แก้วมหานิลนกกาลาบ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะอย่างปีกนกกาลาบ มีรัศมีส่องเข้าไปในแก้ว ชื่อมหานิลนกกาลาบ (คือนกพิราบที่มีลำตัวสีเทาปนฟ้า) ควรค่าได้หนึ่งพันเงิน" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "โป่งข่าม ชนิดแก้วแร" (Quartz) ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 7 ในระบบของโมส์.
3.7 แก้วมหานิลเลือดไก่ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะดั่งแก่นพริกสุกและเลือดไก่ ชื่อมหานิลเลือดไก่ ควรค่าได้สี่พันเงิน" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "โกเมน" (Garnet) ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ X3Y(SiO4)3 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 6 - 6.5 ในระบบของโมส์.
3.8 แก้วมหานิลนาควิฑูรย์ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีสีดำคล้ายน้ำรัก มีทรายทองพุ่งออกมาจากกลางดวงแก้ว ลักษณะคล้ายน้ำหมากเหลืองกลางแก้ว ชื่อแก้วนาควิฑูรย์ ควรค่าได้หนึ่งพันทองคำ" แก้วมหานิลชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของ "Obsidian" ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2,plus MgO,Fe3O4 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 5 - 5.5 ในระบบของโมส์.
3.9 แก้วมหานิลดอกอัญชัน : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะเขียวดั่งดอกอัญชัน ควรค่าหนึ่งพันทองคำ" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "โป่งข่าม ชนิดแก้วจอมขวัญ" (Amethyst Quartz) (*** คำว่า "เขียว" ในความหมายของคนโบราณ ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นสีเขียวจริงๆเสมอไป สีอะไรก็ตามที่มีลักษณะทึมๆมอๆ เช่นสีม่วงคล้ำ หรือ สีน้ำเงินเข้ม คนโบราณจะเรียกว่า"เขียว"ทั้งหมด ***) ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 7 ในระบบของโมส์.
3.10 แก้วมหานิลผักตบ : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะคล้ายดอกผักตบ ควรค่าหนึ่งพันเงิน" แก้วมหานิลชนิดนี้ ในความหมายของคนโบราณ หมายถึง "โป่งข่าม ชนิดแก้วผักตบเทศ" ซึ่งเป็นควอตซ์ที่มีสีก้ำกึ่งกันระหว่าง Amethyst Quartz กับ Smoky Quartz ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 7 ในระบบของโมส์.
3.11 แก้วมหานิลอินทนิล : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะดั่งแววคอนกยูง ชื่ออินทนิล ควรค่าหนึ่งแสนทองคำ" แก้วมหานิลชนิดนี้ จัดอยู่ในกลุ่มของ "Obsidian" ซึ่งมีสูตรทางเคมีคือ SiO2,plus MgO,Fe3O4 มีระดับความแข็งอยู่ที่ 5 - 5.5 ในระบบของโมส์.
3.12 แก้วมหานิลปทัมราค : ในตำราโบราณกล่าวไว้ว่า "แก้วมหานิลลูกใดมีลักษณะดำภายใน คล้ายปทัมราค คือมีปัทมราคเข้าผสมเหมือนดอกไม้เพลิงและผางประทีป ชื่อมหานิลปทัมราคหาค่ามิได้ ถ้ามีไว้ยังบ้านเรือนของผู้ใด หรือทำเป็นแหวนจะเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ช้าง ม้า วัว ควายข้าคนมากนักแล" แก้วมหานิลชนิดนี้ เป็นได้ทั้ง "โกเมน" (Garnet) หรือ "เพทาย"(Zircon) ก็ได้ แต่จะต้องมีทั้งสีดำและสีแดงผสมปนกันอยู่ภายในเม็ดเดียวกัน.
|
โป่งข่ามแก้วฟ้าแรพิรุณแสนห่า |
4.) แก้วโป่งข่ามภายในเว๊ปไซต์โบราณ5 มาจากที่ไหน?
ตอบ : มาจากทั่วโลกหลายประเทศ มีทั้งประเทศโปแลนด์ โรมาเนีย แอฟริกา บราซิล มาดากัสการ์ เทือกเขาหิมาลัยฝั่งประเทศทิเบต และในประเทศไทย (โดยเฉพาะแก้วประเภทฝนแสนห่าและแก้ววิฑูรย์ขนทราย มาจากดอยโป่งหลวงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว(ของเก่าเก็บ) จ.ลำปาง)
|